รายละเอียด
ระบำ รำ ฟ้อน 12 ฟ้อนลาวแพน
1. ระบำสวัสดิรักษา
2. รำกริชสุหรานากง
3. ระบำฉิ่งธิเบต
4. ฟ้อนลาวแพน (มีคำร้อง)
ระบำ รำ ฟ้อน ชุดนี้ จัดแสดงขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 100 ครูลมุล ยมะคุปต์ ณ โรงละครแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 กรกกาคม 2548 บรรเลงโดยวงดนตรีสำนักการสังคีต กรมศิลปากร เป็นการแสดงมุทิตาจิตของเหล่าลูกศิษย์ครูลมุลที่ได้ไปเป็นครูสอนนาฏศิลป์ตามสถาบันต่างๆ รวมตัวกันมาร่วมจัดการแสดงในครั้งนี้ ด้วยความรักและรำลึกถึงพระคุณของคุณครู
2. รำกริชสุหรานากง
3. ระบำฉิ่งธิเบต
4. ฟ้อนลาวแพน (มีคำร้อง)
ระบำ รำ ฟ้อน ชุดนี้ จัดแสดงขึ้นเนื่องในวาระครบรอบ 100 ครูลมุล ยมะคุปต์ ณ โรงละครแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 กรกกาคม 2548 บรรเลงโดยวงดนตรีสำนักการสังคีต กรมศิลปากร เป็นการแสดงมุทิตาจิตของเหล่าลูกศิษย์ครูลมุลที่ได้ไปเป็นครูสอนนาฏศิลป์ตามสถาบันต่างๆ รวมตัวกันมาร่วมจัดการแสดงในครั้งนี้ ด้วยความรักและรำลึกถึงพระคุณของคุณครู
ระบำสวัสดิรักษา
เกิดขึ้นด้วยความคิดถึงคุณหญิงอภัย จันทวิมล เมื่อปี 2507 อาจารย์สลวย โรจนสโรช เป็นผู้ประพันธ์บทร้องตามตำราสวัสดิรักษาของสุนทรภู่ ครูมนตรีตราโมท เป็นผู้บรรจุทำนองเพลง ครูลมุล ยมะคุปต์เป็นผู้ประดิษฐท่ารำ ครูสำเนียง วิภาตะศิลปิน เป็นผู้ถ่ายทอดท่ารำจากครูลมุลไปสอนและฝึกซ้อมให้แก่นาฏศิลป์สมัครเล่น เคยมีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าฯ ให้โรงเรียนราชทัศน์นาฏศิลป์เข้าไปถ่ายทอดท่ารำและฝึกซ้อมให้แก่บรรดาเชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพารฝ่ายในเพื่อแสดงถวายทอดพระเนตรในวโรกาสที่ทรงจัดงานต้อนรับพระราชอาคันตุกะในพระบรมมหาราชวังด้วย
เกิดขึ้นด้วยความคิดถึงคุณหญิงอภัย จันทวิมล เมื่อปี 2507 อาจารย์สลวย โรจนสโรช เป็นผู้ประพันธ์บทร้องตามตำราสวัสดิรักษาของสุนทรภู่ ครูมนตรีตราโมท เป็นผู้บรรจุทำนองเพลง ครูลมุล ยมะคุปต์เป็นผู้ประดิษฐท่ารำ ครูสำเนียง วิภาตะศิลปิน เป็นผู้ถ่ายทอดท่ารำจากครูลมุลไปสอนและฝึกซ้อมให้แก่นาฏศิลป์สมัครเล่น เคยมีพระราชเสาวนีย์โปรดเกล้าฯ ให้โรงเรียนราชทัศน์นาฏศิลป์เข้าไปถ่ายทอดท่ารำและฝึกซ้อมให้แก่บรรดาเชื้อพระวงศ์และข้าราชบริพารฝ่ายในเพื่อแสดงถวายทอดพระเนตรในวโรกาสที่ทรงจัดงานต้อนรับพระราชอาคันตุกะในพระบรมมหาราชวังด้วย
กริชสุหรานากง
กริช เป็นอาวุธสำคัญของชาวชวาและมลายู นิยมว่าเป็นเครื่องประดับอันสง่างามและทรงเกียรติ จึงมีวิธีและท่าทางการใช้กริชอย่างมากมายการรำกริชที่แสดงนี้เป็นการรำอย่างแบบละครรำ ซึ่งได้ดัดแปลงบทบาทท่าทีลีลาให้งดงาม ตามแบบนาฏศิลป์ไทย ถือกันว่าเป็นท่ารำที่สวยงามและมีจังหวะเร่งเร้าใจของผู้ดูเป็นอย่างยิ่ง จนกลายเป็นศิลปการแสดงอย่างหนึ่งของไทย มีทั้งการรำเดี่ยวและรำคู่ รำกริชสุหรานากง เป็นชื่อที่เรียกตามตัวละคร "ระเด่นสุหรานากง" จากละครในเรื่อง อิเหนา ซึ่งเป็นโอรสของท้าวสิงหัดส่าหรีกษัตริย์ องค์หนึ่งในวงเทวัณ การรำกริชนี้อยู่ในตอนที่ตามเสด็จขบวนท้าวดาหา เพื่อไปบวงสรวงองค์ปะตาระกาหลา
กริช เป็นอาวุธสำคัญของชาวชวาและมลายู นิยมว่าเป็นเครื่องประดับอันสง่างามและทรงเกียรติ จึงมีวิธีและท่าทางการใช้กริชอย่างมากมายการรำกริชที่แสดงนี้เป็นการรำอย่างแบบละครรำ ซึ่งได้ดัดแปลงบทบาทท่าทีลีลาให้งดงาม ตามแบบนาฏศิลป์ไทย ถือกันว่าเป็นท่ารำที่สวยงามและมีจังหวะเร่งเร้าใจของผู้ดูเป็นอย่างยิ่ง จนกลายเป็นศิลปการแสดงอย่างหนึ่งของไทย มีทั้งการรำเดี่ยวและรำคู่ รำกริชสุหรานากง เป็นชื่อที่เรียกตามตัวละคร "ระเด่นสุหรานากง" จากละครในเรื่อง อิเหนา ซึ่งเป็นโอรสของท้าวสิงหัดส่าหรีกษัตริย์ องค์หนึ่งในวงเทวัณ การรำกริชนี้อยู่ในตอนที่ตามเสด็จขบวนท้าวดาหา เพื่อไปบวงสรวงองค์ปะตาระกาหลา
ระบำฉิ่งธเบต
ระบำฉิ่ง เป็นระบำที่เกิดขึ้นจากพระปรารภในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุภัณฑ์ยุคลที่จะให้มีระบำชุดนี้เกิดขึ้นโดยพระองค์ท่านได้สรรหาฉิ่งของประเทศต่าง ๆ ในที่สุดทรงเห็นว่าฉิ่งของธิเบตเป็นฉิ่งที่มีขนาดพอเหมาะและมีเสียงกังวานจึงนำมาให้ครูลมุล ยมะคุปต์และคุณครูเฉลย ศุขะวณิช ประดิษฐ์ท่าระบำขึ้น โดยท่านอาจารย์มนตรี ตราโมท เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลง ได้จัดแสดงครั้งแรกในงานร่วมจิตน้อมเกล้า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ณ โรงละครแห่งชาติต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุภัณฑ์ยุคล ได้มอบชุดเครื่องแต่งกายและฉิ่งธเบตให้กับ ผศ. กฤษณา บัวสรวง แห่งภาควิชานาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ต่อมาวิทยาลัย - นาฏศิลป์ กรมศิลปากร จึง ได้สร้างชุดเครื่องแต่งกายแบบสตรีไทยและฉิ่งไทยประกอบการแสดงเป็นที่แพร่หลายทั่วไป
ระบำฉิ่ง เป็นระบำที่เกิดขึ้นจากพระปรารภในพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าภาณุภัณฑ์ยุคลที่จะให้มีระบำชุดนี้เกิดขึ้นโดยพระองค์ท่านได้สรรหาฉิ่งของประเทศต่าง ๆ ในที่สุดทรงเห็นว่าฉิ่งของธิเบตเป็นฉิ่งที่มีขนาดพอเหมาะและมีเสียงกังวานจึงนำมาให้ครูลมุล ยมะคุปต์และคุณครูเฉลย ศุขะวณิช ประดิษฐ์ท่าระบำขึ้น โดยท่านอาจารย์มนตรี ตราโมท เป็นผู้ประพันธ์ทำนองเพลง ได้จัดแสดงครั้งแรกในงานร่วมจิตน้อมเกล้า เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2524 ณ โรงละครแห่งชาติต่อมาพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภานุภัณฑ์ยุคล ได้มอบชุดเครื่องแต่งกายและฉิ่งธเบตให้กับ ผศ. กฤษณา บัวสรวง แห่งภาควิชานาฏศิลป์ มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ต่อมาวิทยาลัย - นาฏศิลป์ กรมศิลปากร จึง ได้สร้างชุดเครื่องแต่งกายแบบสตรีไทยและฉิ่งไทยประกอบการแสดงเป็นที่แพร่หลายทั่วไป
ฟ้อนลาวแพน (มีคำร้อง)
ระหว่าง พ.ศ.2489 - 2498 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ฯพณฯ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ท่านได้ก่อตั้งคณะละครวิจิตรศิลป์ขึ้น และนำบทละครซึ่งท่านประพันธ์ขึ้นใหม่ และโดยเหตุที่ท่านประทับใจในเนื้อร้องเพลงลาวแพนเป็นพิเศษ ท่านจึงกำหนดให้มีการขับร้อง และฟ้อนลาวแพนเป็นการแสดงสลับฉากในละครเวที
ต่อมา เมื่อ พ.ศ.2511 โดยทางช่อง 4 บางขุนพรหมได้กราบเรียนขอให้คุณครูลมุล ยมะคุปต์ เป็นผู้ประดิษฐ์ท่าฟ้อนและมีบุตรีคือ คุณครูพิสมร ทำชอบ เป็นผู้ช่วยฝึกซ้อมให้แก่ศิษย์นาฏศิลป์สัมพันธ์เป็นผู้ฟ้อนมาแสดงออกอากาศในรายการเพลินเพลงกับนฤพนธ์
กล่าวได้ว่า นอกจากการแสดง "ฟ้อนลาวแพน" (มีคำร้อง) ครั้งนี้จะเป็นการสืบทอด และสืบสานผลงานนาฏศิลป์ของคุณครูลมุล ยมะคุปต์แล้วยังถือเป็นที่ระลึกในวาระครบ 60 ปีของการขับร้องเพลงลาวแพน ซึ่งเกิดขึ้นจากดำริของ ฯพณฯ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการอีกด้วย
ระหว่าง พ.ศ.2489 - 2498 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ ฯพณฯ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการ ท่านได้ก่อตั้งคณะละครวิจิตรศิลป์ขึ้น และนำบทละครซึ่งท่านประพันธ์ขึ้นใหม่ และโดยเหตุที่ท่านประทับใจในเนื้อร้องเพลงลาวแพนเป็นพิเศษ ท่านจึงกำหนดให้มีการขับร้อง และฟ้อนลาวแพนเป็นการแสดงสลับฉากในละครเวที
ต่อมา เมื่อ พ.ศ.2511 โดยทางช่อง 4 บางขุนพรหมได้กราบเรียนขอให้คุณครูลมุล ยมะคุปต์ เป็นผู้ประดิษฐ์ท่าฟ้อนและมีบุตรีคือ คุณครูพิสมร ทำชอบ เป็นผู้ช่วยฝึกซ้อมให้แก่ศิษย์นาฏศิลป์สัมพันธ์เป็นผู้ฟ้อนมาแสดงออกอากาศในรายการเพลินเพลงกับนฤพนธ์
กล่าวได้ว่า นอกจากการแสดง "ฟ้อนลาวแพน" (มีคำร้อง) ครั้งนี้จะเป็นการสืบทอด และสืบสานผลงานนาฏศิลป์ของคุณครูลมุล ยมะคุปต์แล้วยังถือเป็นที่ระลึกในวาระครบ 60 ปีของการขับร้องเพลงลาวแพน ซึ่งเกิดขึ้นจากดำริของ ฯพณฯ พลตรีหลวงวิจิตรวาทการอีกด้วย