Details
ละครเสภา
เรื่อง ไกรทอง ตอน ไกรทองอาสา
บทนำ
ไกรทองเป็นนิทานพื้นบ้าน ที่เล่าขานกันมานาน ครั้นเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยได้ทรงพระราชนิพนธ์เป็นบทละคร นอกนำออกแสดงก็ได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างแพร่หลายตลอดมา
เรื่องย่อ
ชายหนุ่มรูปร่างกำยำหน้าตาดี มีชื่อว่าไกรทอง (อ.ปกรณ์ พรพิสุทธิ์) ล่องเรือค้าขายไปยังภาคเหนือเป็นประจำ วันหนึ่งไปจอดเรือที่วัดท่าทรายท้ายเมืองพิจิตร ได้ยินข่าวว่ามีจระเข้ใหญ่มาคาบตะเภาทองลูกสาวเศรษฐีที่ลงเล่นน้ำไปเศรษฐี ป่าวประกาศว่าถ้าใครปราบจระเข้ที่ชื่อชาละวันตัวนี้ได้ จะยกลูกสาวและแก้วแหวนเงินทองอีกมากมายให้ มีผู้อาสาไปปราบเป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีผู้ใดปราบชาละวันได้
เมื่อได้ยินดังนี้ไกรทองจึงไปปรึกษาอาจารย์คง (ครูมืด-ประสาท ทองอร่าม) อาจารย์ตรวจดูแล้วเห็นว่าชาละวันเป็นจระเข้ที่มีฤทธิ์และพลังมาก มีทั้งเขี้ยวแก้วอยู่ยงคงกระพัน มี ดาบ หอกธรรมดาไม่อาจระคายผิว จึงได้มอบอาวุธลงอาคมให้ ด้านชาละวันนั้น เมื่อเห็นตะเภาทองรูปร่างหน้าตาสวยงามต้องตา จึงแปลงร่างเป็นมนุษย์และจับนางมาเป็นเมีย อยู่มาวันหนึ่ง ชาละวันเกิดฝันร้าย จึงไปหาท่านปู่ ชื่อท้าวรำไพให้ช่วยทำนาย ท้าวรำไพบอกว่าเพราะชาละวันไปคาบมนุษย์มาทำเมียเป็นบาปหนัก จักโดนผู้มีฤทธิ์มากกว่ามาฆ่าเสีย ถ้าไม่อยากตาย ก็ให้ถือศีลห้ามออกจากถ้ำจนกว่าจะพ้นเคราะห์ ไกรทองพอรู้ที่อยู่ของชาละวันก็เสกเป่ามนต์คาถาท้าทายทำให้ชาละวันร้อนรุ่ม จนทนไม่ได้ จึงพังปากถ้ำออกไปสู้กับไกรทอง ชาละวันได้รับบาดเจ็บจากมีดหมอ ว่ายกลับมาที่ถ้ำ ไกรทองจุดเทียนระเบิดน้ำตามลงไปพบว่าจระเข้ในถ้ำแก้วกลายเป็นมนุษย์หมด ไกรทองได้พบนางเลื่อมลายวรรณ นางวิมาลา และเหล่าจระเข้ที่เป็นกลายมนุษย์ แต่ไม่พบชาละวัน ไกรทองจึงออกอุบายทำทีเป็นลวนลามใส่ปล้ำนางวิมาลา ชาละวันทนไม่ไหวจึงต้องออกมาช่วยและต่อสู้กันอีกครั้ง ชาละวันพลั้งถูกหอกสัตโลหะแทงจุดสำคัญจนสิ้นฤทธิ์
ณ หอประชุมใหญ่
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์